CHRONIC PAIN
ปวดเรื้อรัง รักษาด้วยยากัญชาได้หรือไม่
อีกกลุ่มโรคที่มีผู้ป่วยมาปรึกษามากคือผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง โดยแพทย์แผนไทยประยุกต์ภัสชญาอธิบายถึงขั้นตอนการรักษาดังนี้
"ถ้าเป็นเคสที่รักษาต่อเนื่องขอยกตัวอย่างเคสผู้ป่วยชายไทยอายุ 53 ปี เป็นโรคข้ออักเสบจากสะเก็ดเงินมา 2 ปี มีอาการปวดอยู่ระดับปวดมากมีอาการปวดบริเวณข้อมือ ข้อศอก และข้อเท้า ร่วมกับผื่นสะเก็ดเงินจากการตรวจร่างกายพบว่ามีอาการปวด บวม และร้อนเล็กน้อยบริเวณที่เป็น"
"ตอนผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาล ในช่วงชักประวัติตอนแรกระบุว่าอาการปวดมีระดับ pain scale อยู่ที่ 8 จากคะแนนเต็ม 10 และตอนนั้นมีการใช้ยาแผนปัจจุบันเพื่อแก้ปวดและลดอักเสบร่วมกับยารักษาสะเก็ดเงินผู้ป่วยบอกว่าเขาต้องใช้ยาแก้ปวดทุกวัน เลยอยากลองใช้ยากัญชาร่วมกับการรับยาแก้ปวดตามปกติ เพื่อจะได้ลดขนาดยาแก้ปวดลง"
"เราเริ่มการรักษาโดยจ่ายยาน้ำมันกัญชาทั้ง 5 ให้ผู้ป่วยครั้งละ 2 หยด วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า - เย็น หลังจากนั้นผู้ป่วยบอกว่ายังมีอาการปวดอยู่ ผ่านไป 3-5 วันเราจึงปรับเพิ่มขนาดขึ้นเป็นครั้งละ 3 หยด คราวนี้ผู้ป่วยยอกว่าเริ่มลดปวดได้และขอใช้ยาเพิ่มช่วงกลางวัน เราเลยปรับเป็นครั้งละ 3 หยด วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น รวมวันละ 9 หยด ซึ่งผู้ป่วยบอกว่าอาการลดปวดลงเหลือ 4 จากคะแนนเต็ม 10"
"ต่อมาผู้ป่วยขอเพิ่มขนาดยา เราจึงต้องส่งผู้ป่วยไปตรวจดูค่าตับค่าไตก่อน ปรากฏว่าผลแล็บปกติ และเมื่อสอบถามเรื่องอาการไม่พึ่งประสงค์ ผลคือปกติดี จึงแนะนำให้ปรับเพิ่มขนาดครั้งละ 4 หยด ก่อนอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น รวมวันละ 12 หยด"
"ผลการรักษาพบว่า ผู้ป่วยมีระดับความปวดลดลงจนการใช้ยาแก้ปวดได้ ถ้าบางวันปวดมากก็จะต้องใช้ยาแก้ปวดช่วยบ้าง แต่ตอนหลังๆผู้ป่วยบอกว่าแทบไม่ต้องใช้ยาแก้ปวดแล้ว"
"ในยาน้ำมันกัญชาทั้ง 5 มีส่วนประกอบจากกัญชา 5 ส่วน ได้แก่ ราก ต้น ใบ ดอก และเมล็ด เคี่ยวกับน้ำมันมะพร้าว โดยในตำราโบราณมีการอธิบายว่าช่วยลดอาการปวด ตรงกับการศึกษาในทางการแพทย์แผนปัจจุบันพบว่า ในรากกัญชามีสารฟริเดลีน (Friedelin) มีฤทธิ์ลดการอักเสบและปวดได้"
"พอการอักเสบลดลง อาการปวดก็จะลดลงตามไปด้วย ขณะเดียวกันการอักเสบและปวดในทางการแพทย์แผนไทยระบุว่าเกี่ยวกับธาตุลมและไฟที่กำเริบ ดังนั้นการใช้กัญชาซึ่งมีส่วนช่วยปรับสมดุลของธาตุลมได้ จึงส่งผลถึงธาตุไฟด้วย ทำให้อาการปวดดีขึ้น และช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดได้"
PANCREATIC CANCER
มะเร็งตับอ่อนกับการใช้สารสกัดกัญชา
การใช้ยากัญชาดูแลผู้ป่วยมะเร็งนั้นจะหวังผลเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตเป็นหลัก โดยอาศัยฤทธิ์ของยากัญชาเพื่อช่วยลดความปวด ช่วยเจริญอาหาร ช่วยนอนหลับ และลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากยาเคมีบำบัด โดยเภสัชกรหญิงอาสาฬาเล่าถึงเคสผู้ป่วยมะเร็งรายหนึ่งซึ่งเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจว่า
"เคสผู้ป่วยหญิงอายุ 85 ปี เป็นมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้าย ใช้ยากัญชาสูตร 1.7% THC ความแรงต่อหยดอยู่ที่ 0.5 มิลลิกรัม ก่อนรับยากัญชาผู้ป่วยมีอาการปวดท้องรุนแรงให้ระดับความปวด 10 เต็ม 10 กินได้น้อยลงมาก มีคลื่นไส้อาเจียนทุกวัน นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เดิมกินยามอร์ฟีน แต่ยังคุมปวดไม่ค่อยได้ ยังต้องไปรับการฉีดมอร์ฟีนที่แผนกฉุกเฉินบ่อยๆเวลาปวดรุนแรง"
"หลังใช้ยากัญชาได้ประมาณ 4 เดือน อาการปวดลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง สีหน้าดีขึ้น ดูแจ่มใสขึ้น เริ่มกินข้าวได้มากขึ้น น้ำหนักเพิ่มจาก 35 กิโลกรัมเป็น 37 กิโลกรัม หลับดีขึ้น ขนาดยาที่ให้เริ่มจาก 1 หยดก่อนนอนจากนั้นมีการปรับขนาดยาในระหว่างที่มาติดตามการรักษาจนถึง 1 หยดตอนเช้าและ 2 หยดก่อนนอน ได้รับสาร THC วันละ 1.5 มิลลิกรัม ผู้ป่วยอยู่กับเราได้ประมาณ 8 เดือนถึงเสียชีวิต"
อ้างอิงจากหนังสือนิตยสาร ชีวจิต ฉบับเดือน SEPTEMBER 2022 (หน้า 108) เขียนโดย ศิริกร โพธิจักร.
รูปภาพจาก :
- Study: Cannabis Use Reduces Daily Use of Prescription Opioids in Chronic Pain Patients : (https://norml.org/blog/2023/01/30/study-cannabis-use-reduces-daily-use-of-prescription-opioids-in-chronic-pain-patients/)