คนอเมริกันพยายามเสพยามากกว่าคนในประเทศอื่นๆ ประชากรของประเทศอเมริกามีร้อยละห้าของโลก แต่สามารถใช้ยาได้ถึงร้อยละ 75 ของโลก (มักไม่มีใบสั่งยา) ดังที่เคยกล่าวไว้เมื่อก่อน... สงครามยาเสพติดของประเทศได้สร้างสภาพแวดล้อมที่รุนแรงสำหรับผู้ใช้ยา และหลายคนต้องถูกจำคุก สิ่งต่างๆดูเหมือนจะเปลี่ยนไปด้วยการทำให้กัญชาถูกกฎหมายในหลายรัฐ แต่ประเทศอื่นๆก็เป็นผู้นำในการปฏิรูปนโยบายยาเสพติดอยู่แล้ว
เราคงทราบกันมาบ้างแล้วว่า กฎหมายยาเสพติดในประเทศไทยตอนนี้เป็นยังไงและอยู่ในรูปแบบไหนกันบ้าง วันนี้เราอยากจะมาเปิดโลกให้สหายได้รู้จักกฎหมายยาเสพติดในประเทศอื่นๆกันบ้างว่าต่างประเทศนั้นเค้ามีการป้องกัน หรือ มาตราการควบคุมยาเสพติดยังไงบ้าง
เริ่มที่ ประเทศโปรตุเกส Portugal
เราอาจได้ทราบกันอยู่บ้างแล้วว่า โปรตุเกสเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้กล่าวถึงในการก้าวหน้าของนโยบายด้านยา ดังนั้นเราจะมาพูดถึงโปรตุเกสเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ปราบปรามยาเสพติดทั้งหมด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเค้าจะขายเฮโรอีนอย่างเปิดเผยในร้านค้า เช่นการขายกัญชาในรัฐโคโลราโด แต่หมายความว่า คุณอาจไม่จำเป็นต้องติดคุกเพราะเสพยา หรือขายยา หรือใช้พวกมัน แต่คุณอาจจะยังต้องเผชิญโทษทางอาญาเล็กน้อยสำหรับสิ่งต่างๆเช่น การขายยา เช่นการได้รับค่าปรับ แทนที่จะเข้าคุก โปรตุเกสได้เริ่มมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูผู้ใช้ยา และบำบัดการติดยาเสพติดเช่นเดียวกับโรคที่เป็นอยู่
แทนที่จะลงโทษผู้คนโดยที่ไม่ได้ช่วยให้พวกเขาได้ทบทวนในการตัดสินใจชีวิตของพวกเขาจริงๆ โปรตุเกสเสนอการให้คำปรึกษาผู้ติดยา โดยมีโครงการแลกเปลี่ยนเข็มฉีดยา และการเข้าถึงโรงพยาบาล
นับตั้งแต่เริ่มใช้แนวทางนี้ โปรตุเกสได้ลดจำนวนจากการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 14,000 คนต่อปี เหลือเพียง 6,000 คนต่อปี เปลี่ยนจากการระบาดของเฮโรอีนไปสู่การมีอัตราการใช้ยาที่ต่ำที่สุดในสหภาพยุโรป ไม่เพียงแต่จำนวนผู้ต้องหาในเรือนจำลดลง จำนวนผู้คนที่ใช้ยาอันตรายก็น้อยลงด้วย
ประเทศต่อมา... สวิตเซอร์แลนด์ Switzerland
สวิตเซอร์แลนด์ยังมีนโยบายด้านยาที่ค่อนข้างผ่อนคลาย ซึ่งนโยบายนั้นได้มุ่งเป้าไปที่การช่วยเหลือผู้คน กัญชาในประเทศนี้นั้น ถูกลดทอนความเป็นอาชณากรรมตั้งแต่ปีพ.ศ. 2556 แล้ว และประเทศนี้มีโครงการลดอันตรายสำหรับผู้ใช้ยามาตั้งแต่ปีค.ศ. 1980 สวิตเซอร์แลนด์กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ในขณะนั้น และโรคนี้ก็แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วระหว่างผู้ใช้ยาที่ใช้เข็มร่วมกัน แทนที่จะรวมกลุ่มผู้ใช้ยาและจับเข้าคุก ประเทศเริ่มเสนอที่อยู่อาศัย โครงการงาน การแลกเปลี่ยนเข็ม โครงการเมธาโดน และห้องฉีดยาภายใต้การดูแลสำหรับผู้ติดยา
Dr.Ambros Uchtenhagen จากสถาบันวิจัยด้านสาธารณสุขและการเสพติดที่มหาวิทยาลัยซูริกได้กล่าวในรอยเตอร์ปี 2010 ว่า "จำนวนผู้ฉีดยาเสพติดที่ติดเชื้อ HIV ได้ลดจำนวนลงมากกว่าร้อยละ 50 ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา การเสียชีวิตจากยาเกินขนาดในกลุ่มผู้ฉีดลดลงกว่าร้อยละ 50 ในทศวรรษที่ผ่านมา"
โครงการที่คล้ายคลึงกันนี่ได้รับการจัดตั้งขึ้นในประเทศอื่นๆทั่วโลก รวมทั้งในแคนนาดาด้วย ในแวนคูเวอร์ บี.ซี. คลินิกหลายแห่งอนุญาตให้ผู้คนนำเฮโรอีนเข้ามาเพื่อใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ หรือไม่ก็ให้เฮโรอีนแก่ผู้ติดยาจริงๆ เพื่อไม่ให้ป่วยจากปริมาณที่ไม่ดี ต้องขอบคุณโครงการนี้ที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิตบนท้องถนนน้อยลงเนื่องจากปัญหายาเสพติดเลยทีเดียว
สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic)
สาธารณรัฐเช็กค่อนข้างผ่อนปรนในเรื่องกฎหมายของยาเสพติด ณ ตอนนี้ ผู้ใช้ยาในประเทศสามารถปลูกกัญชาได้มากถึงห้าต้น พวกเขาสามารถมีวัชพืชได้มากถึงหนึ่งออนซ์ในตัวของพวกเขา โคเคนหนึ่งกรัม เฮโรอีนหนึ่งกรัมครึ่ง หรือยาบ้าสองกรัม มีมากกว่านั้นอีกนะ คุณยังสามารถมีเห็ดขี้ควาย หรือ Magic Mushroom ได้มากถึง 40 ตัว, ต้นเพโยตีห้าต้น และ LSD ห้าแท็บ !!! คนในชุมชนต่างชื่นชมการที่สังคมสามารถเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ได้ กระทั้งในตอนนี้ประเทศยังมีโครงการกัญชาทางการแพทย์ที่กว้างขวางอีกด้วย ชาวเช็กยังคงไล่ตามและลงโทษผู้ที่คิดว่าเป็นการค้ามนุษย์หรือจำหน่ายยา แต่ผู้ใช้ยาทั่วไปต้องเผชิญกับค่าปรับเพียงเล็กน้อยหากถูกจับได้ว่าใช้ส่วนตัวไม่ใช่ทางการแพทย์
เช่นเดียวกับโปรตุเกส สาธารณรัฐเช็กยังมีโครงการลดอันตราย เช่น โครงการแลกเปลี่ยนเข็ม การให้คำปรึกษา และการตรวจโรคติดเชื้อฟรี พวกเขายังเสนออลูมิเนียมฟอยล์ให้กับผู้ใช้ยาสำหรับการสูบบุหรี่เฮโรอีน คุณคิดว่านี่จะทำให้ประเทศกลายเป็นพรรคค้ายายักษ์ใหญ่ แต่การใช้ยาได้ลดลงจริงๆและปริมาณของยาเกินขนาดก็เช่นกัน
ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Netherlands)
เราทุกคนคงรู้ดีว่าทำไมคุณถึงไปอัมสเตอร์ดัม (แม้ว่าตอนนี้ฉันคุ้นเคยกับปรากแล้วแต่ก็อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางแห่งกัญชาเพียงแห่งเดียว) ในเนเธอร์แลนด์การเดินไปรอบๆโดยพกกัญชามากถึง 5 กรัมนั้นถูกกฎหมายอย่างสมบูรณ์ ประเทศมีกฎหมายห้ามการผลิตและแจกจ่ายกัญชา แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่กระตือรือร้นที่จะไล่ตามมันสำหรับยาเสพติดที่รุนแรง ทุกคนที่มีน้ำหนักครึ่งกรัมหรือน้อยกว่านั้นโดยทั่วไปจะไม่เกิดปัญหาใดๆ แต่ตำรวจมักจะเอามันไปจากคุณ
เคยมีการโต้เถียงกันคร้ังใหญ่ในปีค.ศ. 2011 เมื่อผู้นำชาวดัตซ์ตัดสินใจว่าถึงเวลาที่จะห้ามนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าร่วมการใช้กัญชาใน "ร้านกาแฟ" ซึ่งคุณสามารถซื้อและสูบบุหรี่ได้ตามกฎหมาย พวกเขาวางแผนที่จะเปลี่ยนเพื่อให้ประชาชนเท่านั้นที่สามารถใช้อุตสาหกรรมนี้และจะต้องมีบัตรสมาชิกหลังจากได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากชุมชน "ร้านกาแฟ" และอุตสาหกรรมนักท่องเที่ยวอื่นๆ พวกเขาได้แก้ไขกฎหมายเพื่อให้เมืองต่างๆสามารถตัดสินใจว่าจะจัดการกับมันอย่างไร อย่างที่คุณเดา อัมสเตอร์ดัมได้ขจัดข้อจำกัดออกไปโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม บางเมืองในประเทศยังคงปฏิเสธให้นักท่องเที่ยวใช้อยู่ ศึกษาให้ดีก่อนไปค่ะ
อุรุกวัย (Uruguay)
อย่างไรก็ตามใครที่ติดตามการเปลี่ยนแปลงกฎหมายยาเสพติดทั่วโลกน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่า อุรุกวัย กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ออกกฎหมายกัญชาอย่างเป็นทางการ รัฐบาลของประเทศของกัญชา 1 กรัมในราคา 1 ดอลลาร์ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อผู้ค้ายาเสพติด ชาวอุรุกวัยสามารถซื้อได้ 40 กรัมต่อเดือน และคุณต้องเป็นพลเมืองหรือผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรจึงจะซื้อได้ หากคุณเหมาะสมกับพารามิเตอร์เหล่านั้น และไม่ต้องการซื้อจากรัฐบาล คุณสามารถปลูกกัญชาได้มากถึง 6 ต้น อนุญาตให้ใช้เห็ดประสาทหลอนได้เกือบทุกประเภท
สำหรับยาที่มีฤทธิ์แรงกว่านั้น การใช้ยาอย่างโคเคนและเฮโรอีนไม่ผิดกฎหมายแต่ประเทศกำลังไล่ตามผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายการจัดจำหน่ายรายใหญ่ อุรุกวัยต่อสู้กับการค้าโคเคนมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่พวกเขาทำให้กัญชาถูกกฎหมาย เพื่อให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่การตัดสินคดียาเสพติดที่ร้ายแรงกว่าได้
แล้วสุดท้ายประเทศไทยเราหละ จะปรับเปลี่ยนกฎหมายไปเป็นรูปแบบไหนกัน แล้วจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้มากน้อยขนาดไหนกันนะ จะเอากฎหมาย หรือนโยบายของประเทศข้างต้นไปเป็นตัวอย่างไหม?
เพื่อนๆสหายมีความคิดเห็นยังไงกันบ้างค่ะ?
อ้างอิงจาก : https://archive.attn.com/stories/1604/countries-with-the-most-progressive-drug-laws-world
1. Portugal
2. Switzerland
3. Czech Republic
4. Netherlands
5. Uruguay